เครือข่ายเยาวชนยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯเชียงใหม่ คุมเข้มคอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาว หวั่นซ้ำรอยแหก กฎหมายเหล้า เยาวชนเฝ้าระวังแอลกอฮอล์ 7 สถาบันพร้อมด้วยเครือค่ายต่างๆยื่นหนังสื่อถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความห่วงใยในสถานการณ์การจัดงานแสดงดนตรี 30 ปีคาราบาว ที่จะมีขึ้น ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ขอให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครองดื่มแอลกฮอล์อย่างเข้มงวด
ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 11.00 น. ตัวแทนกลุ่มเชียงใหม่อารยะ เครือข่ายเยาวชนเฝ้าระวังแอลกอฮอล์ 7 สถาบัน พร้อมด้วยประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ ยื่นหนังสื่อถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านนายสมชาย เปี่ยมสุข นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ ผู้แทนสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อแสดงความห่วงใยในสถานการณ์การจัดงานแสดงดนตรี 30 ปีคาราบาว ที่จะมีขึ้น ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 2 สิงหาคม 2554 นี้ เนื่องจากมีการละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่งานคอนเสิร์ตในจังหวัด ‘พิจิตร-ขอนแก่น-มุกดาหาร-เลย-สุราษฎร์ฯ-พัทลุง’ ปล่อยให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามดื่มห้ามขาย ซึ่งเป็นสถานที่ราชการตามมาตรา 27,การจัดกิจกรรมลด แลก แจก แถม(มาตราที่ 30) และที่สำคัญมีการแสดงตราสัญลักษณ์ และโชว์ภาพสินค้า ซึ่งในมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูล ข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เว้นแต่เป็นการปรากฏภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาท” ทางเครือข่ายจึงได้ยื่นจดหมายเปิดผนึก ถึง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นผู้อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดงาน เรื่องขอให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวด จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งขาติ จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีความชุกของผู้ที่ดื่มเป็นประจำทุกวัน สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ หรือร้อยละ 12.6 ซึ่งกลุ่มนี้จะกลายเป็นโรคตับแข็ง โรคจิตจากแอลกอฮอล์ โรคมะเร็งตับ ในอนาคตถ้าไม่ได้รับการบำบัดรักษา และเยาวชนกลุ่มใหม่จะเพิ่มขึ้นมาทดแทน ถ้าไม่ได้มีการวางแผนป้องกันไว้ เมื่อวิเคราะห์เฉพาะผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าผู้ที่เคยดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะร้อยละ 50.2 ซึ่งน่าจะส่งผลต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก เมื่อคำนวณดัชนีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าดัชนีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับที่ 4 จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ และเป็นอันดับ 11 ของประเทศไทย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น