เยาวชนเชียงใหม่จัดเวทีพัฒนาโครงการ Mini Project 2011 เพื่อสนับสนุนงานรณรงค์ในจังหวัดเชียงใหม่

วันนี้(14 สิงหาคม 2554) ที่เชียงใหม่ เยาวชนเฝ้าระวังภัยแอลกอฮอล์ ๗ สถาบันจังหวัดเชียงใหม่จัดเวทีเ​เลกเปลี่ยนพัฒนาโครงการ Mini Project ของสถาบันการศึกษาต่างๆในจังหวั​ดเชียงใหม่อันประกอบด้วยหมาวิทย​าลัยเเม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้า​นนาภาคพายัพเชียงใหม่ มหาวิทยาพายัพ มหาวิทยาลัยนอร์ท - เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ สถาบันการพละศึกษาจังหวัดเชียงใ​หม่ ซึ่งในการนี้ทางเครือข่ายได้รว่​มกับสำรวจต้นทุนเดิมของเเต่สถาบ​ันในประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ​เเละได้มีการนำเสนอโครงการใหม่ๆ​อาทิ โครงการวันพุท(ธ)เลิกเหล้าเเละว​ัดเกิดเลิกเหล้าโครงการรณรงค์ลด​บุหรี่ในสถานศึกษา,โครงการวิ่งต​้นเหล้า คณะวิศวกรรมศาสตร์นอกเหนือจากนี​้ได้มีการเสนอไอเดียในการพัฒนาง​านเครือข่ายเยาวชนเฝ้าระวังภัยแ​อลกอฮอล์ ๗ สถาบันจังหวัดเชียงใหม่พร้อมในเ​ดือนตุลาคมจะได้มีการจัดเวทีสาธ​ารณะในประเด็น"บทบาทมหาวิทยาลัย​กับงานสร้างเสริมสุขภาพ"เเละในช​่วงนี้เยาวชนยังเปิดเผยเพิ่มเติ​มว่าจะมีการเร่งการสำรวจข้อมูลต​้นทุนเดิมพร้อมกับการคืนขอ้มูลก​ารสำรวจกลับสู่มหาวิทยาลัยเพื่อ​สร้างเเผนในการรณรงค์,พัฒนาองค์​ความรู้เเละเครือข่ายต่อไป - หนุ่มใหญ่ รายงาน -

ค่ายครอบครัวอบอุ่น...สร้างรั้วป้องกันภัยแอลกอฮอล์

ค่ายครอบครัวอบอุ่น .. กระบวนการเสริมพลังความเข้มแข็งครอบครัว

สานความรักความผูกพันของเด็กและผู้ใหญ่

เพื่อสร้างรั้วป้องกันภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ .. อย่างยั่งยืน

------------

 

จังหวัดขอนแก่น  โดยความร่วมมือระหว่าง  ศูนย์แก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน  กองทุนสุขภาพตำบลพระลับ  เทศบาลตำบลพระลับ  และโรงพยาบาลขอนแก่น  ได้พัฒนาหลักสูตรและจัดกิจกรรม .. “ค่ายครอบครัวอบอุ่น ” จำนวน  ๒  รุ่น  เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนงดเหล้าบุหรี่  พร้อมครอบครัว ในพื้นที่ตำบลพระลับ  จำนวน ๘๔  ครอบครัว  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเวทีแสดงออกของเด็กเยาวชนและครอบครัว  ได้เรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้ใหญ่และเด็กเกี่ยวกับการดื่มและสูบของสมาชิกในครอบครัว  รวมถึงผลกระทบจากการดื่มและสูบที่เกิดขึ้นกับเพื่อนๆ  ญาติ  ชุมชน  และสังคม และร่วมกันหาแนวทางป้องกันแก้ไขโดยความร่วมมือกันของสมาชิกทุกคนในครอบครัว   อย่างยั่งยืน  นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำงดเหล้าและบุหรี่ตำบลพระลับ  ให้มีความเข้มแข็งอีกด้วย   ทั้งนี้ครอบครัวที่ผ่านการอบรมแล้วจะเป็นตัวอย่างครอบครัวเลิกเหล้าตลอดชีวิตที่มีความอบอุ่น  ทำความดีถวายในหลวงเนื่องในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษา  ๘๔  พรรษา  และกำหนดจะจัดพิธีประกาศครอบครัวเลิกเหล้าตลอดชีวิตให้ทันในวันที่  ๕  ธันวาคม  ๒๕๕๔  ที่จะถึงนี้

บทสรุปที่ได้จากการจัดเวที  “ค่ายครอบครัวอบอุ่น”  จังหวัดขอนแก่น

·       เป้าประสงค์ของการทำค่ายครอบครัวอบอุ่น

๑.     เด็กเยาวชนได้มีเวทีแสดงออกเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับโทษภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่  และแสดงความเห็นต่อการรวมกลุ่มกันเพื่อแก้ไขปัญหา

๒.     ผู้ใหญ่ได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และรับฟังความคิดเห็นของเด็กต่อปัญหาเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่

๓.     ผู้ใหญ่และเด็ก พร้อมครับครัว  ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ทั้งในระดับครอบครัว  ชุมชน  และสังคม

๔.     เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก  ทำให้ครอบครัวมีความรัก  ความผูกพันมากขึ้น  จนนำไปสู่การเป็นครอบครัวอบอุ่นได้ในอนาคต

·       บทบาทของเครือข่ายเยาวชนงดเหล้าบุหรี่ฯ

๑. เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ครอบครัว  เพื่อน  และสังคมโดยรวม

๒. ชักชวนคนรอบข้าง  เช่น  สมาชิกในครัวเรือน  เพื่อนๆ  ให้งดลดละเลิกเหล้า

     และบุหรี่

๓. ร่วมกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าและบุหรี่  และกิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์ที่เป็น

     สาธารณะเพื่อคนส่วนรวม  ทั้งในพ้นที่ตำบลพระลับ  และพื้นที่อื่นๆ

๓. พัฒนาความเข้มแข็งของกลุ่มฯ  และสร้างสรรค์กิจกรรมอื่นๆที่เป็น

     สาธารณประโยชน์ในชุมชน  

·       วิธีการทำงาน

๑. ทำงานเป็นกลุ่ม  เป็นทีม  โดยใช้เสื้อเป็นสัญลักษณ์ของเครือข่าย

๒. ทำงานร่วมกับผู้ใหญ่และครอบครัว

๓. เป็นเครือข่ายสาธารณะประโยชน์ที่ทำงานร่วมกับจังหวัด  หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ

·       สิ่งที่เครือข่ายแกนนำเยาวชนต้องการ

            ๑. ต้องการให้สนับสนุนกิจกรรมการกีฬาและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

            ๒. ต้องการทำงานร่วมกับ  อสม.  ในด้านการรณรงค์ต่างๆ  เช่น  การรณรงค์งดเหล้า  บุหรี่  การดูแลสิ่งแวดล้อม  รณรงค์อุบัติเหตุ  เป็นต้น

            ๓. ต้องการทำงานบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะร่วมกับครอบครัว  รวมถึงกิจกรรมเข้าวัด  ปฏิบัติธรรม  ตามเทศกาลต่างๆ

            ๔. ต้องการศึกษาและผลิตเครื่องดื่มทดแทนแอลกอฮอล์ให้เป็น  เพื่อจะนำไปใช้ในครอบครัว

            ๕. ต้องการฝึกและผลิตสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเครือข่ายฯ  เพื่อนำไปจำหน่ายเป็นกองทุนให้กับเครือข่ายฯ

          ๖. ต้องการศึกษาดูงานในด้านต่างๆ  ในพื้นที่อื่นๆ  ที่มีเครือข่ายเยาวชนที่เข้มแข็ง

            ๗. ต้องการให้ผู้ใหญ่สนับสนุนงบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรม  เมื่อเครือข่ายฯ มีความเข้มแข็งแล้ว 

·       สิ่งที่จะทำในช่วงเข้าพรรษานี้

๑. ชวนสมาชิกครอบครัวงดเหล้าเข้าพรรษา

๒. ชวนครอบครัวและเพื่อนบ้าน  สมัครเข้าร่วมโครงการครอบครัวเลิกเหล้าตลอดชีวิต  ทำความดีถวายในหลวง  ปี ๒๕๕๔

๓. ช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณะประโยชน์  (โดยใส่เสื้อแกนนำเยาวชนงดเหล้าบุหรี่ตำบลพระลับ)

      -  ๑๒  ส.ค.  ๒๕๕๔   งานวันแม่   (พิธีกราบเท้าแม่)

      -  ร่วมกิจกรรมรณรงค์งดเหล้า  ทุกวันศุกร์ที่ถนนคนเดิน  ตำบลพระลับ

      -  ๒๘  ส.ค. ๒๕๕๔  ช่วยงานสาธารณะประโยชน์วันอุโบสถ  ที่วัดสมศรี  ซึ่งจะมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ประมาณ  ๕,๐๐๐  คน 

      -  จัดเวทีวันออกพรรษา  ประกาศครอบครัวต้นแบบเลิกเหล้าตลอดชีวิต และเยาวชนต้นแบบไม่ดื่มไม่สูบตลอดชีวิต

·       ความคิดเห็นของผู้ปกครอง

๑. รู้สึกดีใจประทับใจและมีความสุข  ที่ได้เห็นลูกๆหลานๆ  ได้แสดงออกและเล่น

    กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์กับเพื่อนๆ   เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  จะได้ไม่ไป

    ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่กัน  เพราะพ่อแม่เป็นห่วงกันทุกคน

๒. ต้องการให้มีกิจกรรม  เวทีค่ายครอบครัวอบอุ่นอย่างต่อเนื่อง

๓. ต้องการให้โครงการฯนี้ดำเนินการต่อไปอย่างจริงจัง  เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกัน

    ลูกหลานไม่ให้ไปสูบบุหรี่  ดื่มเหล้า  และติดยาเสพติด

·       สิ่งที่ได้จากการดำเนินงาน

๑. วิทยากรกระบวนการได้รับการพัฒนา  ตามหลักสูตร  ค่ายครอบครัวอบอุ่น 

    สามารถเป็นวิทยากรไปถ่ายทอดการจัดทำค่ายครอบครัวอบอุ่นให้กับพื้นที่ต่างๆ   

    ตามยุทธศาสตร์อีสานไม่กินเหล้าได้

๒. ได้หลักสูตร  ค่ายครอบครัวอบอุ่น  ที่สามารถนำไปผลิตเป็นคู่มือการจัดทำค่ายครอบครัวอบอุ่น  เพื่อใช้เป็นประโยชน์สำหรับกระบวนการจัดทำค่ายครอบครัวอบอุ่น  ให้บรรลุเป้าหมาย  คนอีสานเลิกเหล้าเลิกจน  ดำรงตนแบบพอเพียง  มีครอบครัวอบอุ่น  และอยู่ในชุมชนเข้มแข็ง  ได้ในอนาคต

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน

พะเยาจัดระเบียบ คุมสถานบันเทิง ผิดยึดใบอนุญาต

วันที่ 8 ส.ค. นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รอง ผวจ.พะเยา เปิดเผยว่า สำหรับโครงการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการของจังหวัดพะเยา ได้กำชับให้มีการเข้มงวดกับสถานบริการทั่วพื้นที่และห้ามฝ่าฝืนระเบียบ โดยเฉพาะสถานบริการที่ปล่อยให้มั่วสุมและอนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ซึ่งหากกระทำการเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในอัตราโทษที่สูงสุด ส่วนสถานประกอบการที่เชิญมาประชุมแล้วไม่มาร่วมหารือจะถือว่ารู้เรื่อง กฎหมายดีแล้ว ซึ่งตนจะส่งรายชื่อให้เจ้าหน้าที่ไปประเมิน จากนั้นทีมกฎหมายและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จะชี้แจงสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ
นายนิมิต กล่าวต่อว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการ ไม่ควรปฏิบัติมี 2 อย่าง คือ 1.อย่าจำหน่ายสุราให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และ 2.ไม่จำหน่ายแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กำหนด หากพบจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ พ.ร.บ.สุรา มีโทษถึงขั้นให้ผู้ประกอบการไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ รวมทั้งจะถูกยึดใบอนุญาต ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อใหม่ก็จะสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นเจ้าของสถานประกอบการต้องนำไปปฏิบัติหากยังพบว่ามีการละเลยและไม่ใส่ ใจ ทางราชการจะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด และห้ามปฏิเสธว่า ไม่รู้หรือไม่ทราบมาแก้ตัวอีกต่อไป

ภาคขนส่งร่วมเทิดพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี เป็น“ผู้ขับขี่ต้นแบบ” ไม่สูบ-ไม่ดื่ม ใส่ใจผู้โดยสาร

กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ สหกรณ์แท็กซี่ สหกรณ์รถยนต์รับจ้างสามล้อ สหกรณ์สี่ล้อเล็กรับจ้าง ศูนย์วิทยุสื่อสารรถแท็กซี่และผู้ขับรถยนต์รับจ้างในกรุงเทพมหานคร จัดงาน “12 สิงหามหาราชินี” ประจำปี 2554 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 6 กรมการขนส่งทางบก

นายจิรุตม์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดกิจกรรมในงาน “12 สิงหามหาราชินี” ในปีนี้ จะมีการคัดเลือกผู้ที่มีอาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะทุกประเภท ที่มีความสมัครใจในการปฏิญาณตนเป็น “ผู้ขับขี่ต้นแบบ” โดยต้องเป็นผู้ขับขี่ที่ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร และรถต้องไม่สกปรก เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชู ผู้ขับขี่ที่ดี มีความปลอดภัย และใส่ใจผู้โดยสาร โดยวันที่ 12 สิงหาคมนี้ จะมีการนำร่อง “ผู้ขับขี่ต้นแบบ” จำนวน 80 คน และจะรับสมัครต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อร่วมทำความดีจากวันแม่....ถึงวันพ่อ โดยจะมีการมอบรางวัลแก่ “ผู้ขับขี่ต้นแบบ” ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554

แฟ้มภาพ

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง การประกวดรถบุปผชาติ การกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ของผู้ประกอบการรถแท็กซี่และผู้มาร่วมงาน การกล่าวปฏิญาณตนเป็นคนดีของผู้ขับรถรับจ้าง การบริจาคเงินเพื่อนำทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล การมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้ขับรถรับจ้าง การจัดซุ้มรณรงค์ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุข ซุ้มให้คำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ซุ้มการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด และซุ้มเล่นเกมพร้อมมอบของรางวัลต่าง ๆ มากมาย โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถแท็กซี่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) .-สำนักข่าวไทย

“แอ๊ด-วินิจ-วอร์นเนอร์” ไม่เข้าฟังข้อกล่าวหาผิด กม.เหล้า

 “แอ๊ด-วินิจ-วอร์นเนอร์ มิวสิค” ไม่เข้าเข้ารับฟังข้อกล่าวหา   หลังทำผิด กม.เหล้า “หมอสมาน” ชี้ ไม่เข้าพบมีความผิดฐานไม่ให้ความร่วมมือ ขณะ ไทยเบฟ ให้ปากคำแล้วขอเวลาทำเอกสารชี้แจง 2 สัปดาห์ 
               
        วานนี้ (10 ส.ค.)    นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเชิญผู้เกี่ยวข้อง 4 ราย คือ  1.นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 2.นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด 3.นายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว)  และ 4.กรรมการบริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด มาให้ข้อมูลประกอบสำนวน เพื่อยื่นแจ้งความภายใน 2 สัปดาห์  หลังจากคณะอนุกรรมการพิจารณาการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 แจ้งโทษกรณีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานคอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาว   มีโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำผิดมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ว่า  สำนักงานฯ ได้ออกหนังสือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ถ้อยคำประกอบการสอบสวนและดำเนิน คดี แต่ปรากฏว่า มีเพียงตัวแทนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ   เข้าให้ถ้อยคำและรับฟังการแจ้งข้อหาเท่านั้น
       นพ.สมาน กล่าวว่า  ทางบริษัท  รับฟังแต่ไม่ข้อแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งใดๆ แต่ขอเวลาในการรวบรวมเอกสารเพื่อจัดทำคำชี้แจงประมาณ 2 สัปดาห์  คาดว่า จะสามารถรวบรวมเพื่อดำเนินคดีได้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้  เช่นเดียวกับอีก  3  ส่วนที่ไม่ได้เดินทางมาตามหนังสือเรียก คือ บ.เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด  วงคาราบาว และบริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด   ซึ่งได้ส่งหนังสือเพื่อขอเลื่อนการให้ถ้อยคำออกไปอีก 2 สัปดาห์ ประมาณปลายเดือน ส.ค.
      
       “อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ได้รับหนังสือเชิญให้ถ้อยคำไม่เดินทางมาตามกำหนด ถือว่ามีความผิดฐานไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท เพราะการส่งหนังสือเชิญให้ปากคำอาศัยอำนาจตามมาตรา 34 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯ ซึ่งการให้ถ้อยคำถือว่าเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้โดนกล่าวโทษ  ทั้งนี้ คาดว่า จะสรุปสำนวนเพื่อส่งดำเนินคดีภายในต้นเดือน ก.ย.นี้” นพ.สมาน กล่าว  

ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ถ่ายทอดสด “ศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำ ปี ๔”

เมื่อ วันที่ ๓  สิงหาคม  ๒๕๕๔  ไทยพีบีเอส (Thai PBS)  ร่วมกับสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)  แถลงข่าวการถ่ายทอดสด “ศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำ”  ซึ่งไทยพีบีเอส (Thai  PBS) ถ่ายทอดสดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๔

โดย การถ่ายทอดการแข่งขันในแต่ละครั้งจะสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ลุ่มแม่น้ำของจังหวัดต่างๆ  และความรู้เกี่ยวกับเรือไทยในสมัยโบราณไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ สสส.และสคล.  รณรงค์การแข่งเรือปลอดเหล้า โดยประเดิมสนามแรก วันอาทิตย์ที่ ๑๔ สิงหาคมนี้ ณ คลองตาขำ จังหวัดสมุทรสาคร

นายวสันต์ ภัยหลีกลี้  รองผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ด้านปฏิบัติการ กล่าวถึงความพร้อมในการถ่ายทอดสดการแข่งขันเรือยาวในปีนี้ว่า “ไทยพีบีเอส (Thai PBS)  มีนโยบายในการส่งเสริมการกีฬาที่หลากหลาย รวมถึงการให้ความสำคัญกับกีฬาในระดับชุมชน โดยเฉพาะกีฬาพื้นบ้านของไทยที่ควรอนุรักษ์พร้อมสนับสนุนประเพณีวัฒนธรรมที่ ดีงามของแต่ละท้องถิ่น  การถ่ายทอดสดการแข่งขันเรือยาวของไทยพีบีเอส (Thai PBS) ไม่ได้เพียงแต่นำเสนอผลแพ้ชนะเท่านั้น  แต่ยังสอดแทรกวิถีชีวิตของผู้คน  ศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมกันของชุมชน ซึ่งในปีนี้เป็นปี ที่ ๔ ที่ไทยพีบีเอส (Thai PBS)  รับหน้าที่ถ่ายทอดสดการแข่งขัน  ที่ผ่านมาเรามีภาพมุมสูงทางอากาศโดยสมาคม เครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ทำให้ได้ภาพในมุมมองที่แตกต่าง  และปีนี้ไทยพีบีเอส (Thai PBS)  จะเพิ่มการถ่ายทอดสดมากขึ้นถึง ๑๖ สนามครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศไทย  และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่นมีส่วนร่วมเข้าแข่งขันในรูปแบบ เฉพาะของแต่ท้องถิ่นอีกด้วยครับ”
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงเจตนารมณ์ในการร่วมโครงการครั้งนี้ว่า “สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง  เสริมสุขภาพ(สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)  มีนโยบายที่จะสนับสนุนให้งาน  ประเพณีวัฒนธรรม รวมถึงงานกีฬาเป็นงานที่ดีงามและนำมาซึ่งความสุขส่วนรวมของผู้คนสังคมซึ่งใน ช่วงเข้าพรรษาน้ำเริ่มหลาก คนไทยมีประเพณีที่สำคัญ คืองานแข่งเรือ ซึ่งเป็นกิจกรรมรื่นเริงที่มักอยู่ควบคู่ไปกับงานบุญ แต่ปัจจุบันพบว่างานแข่งเรือเต็มไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อบายมุขและการพนัน จากงานบุญกลายเป็นงานบาป เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็กเยาวชน สร้างค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์

โดยตลอดระยะเวลา ๔ ปีที่ผ่านมา สสส.ได้จับมือร่วมกับภาคีเครือข่าย และเจ้าภาพจัดงานในพื้นที่ช่วยกันรณรงค์แข่งเรือปลอดเหล้า ซึ่งได้ผลเป็นที่ น่าพอใจ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน ที่แต่เดิมมีสถิติการดื่มเหล้าสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศและเกิด อุบัติเหตุในช่วงแข่งเรือบ่อยมาก แต่ปัจจุบันด้วยการรณรงค์ที่ต่อเนื่องและเอาจริงเอาจังของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากคนน่านเองทำให้น่านกลายเป็นพื้นที่ต้นแบบในการจัดงานแข่งเรือที่ ปลอดเหล้า-เบียร์  สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงงานได้ร้อยละ ๑๐๐ ลดยอดผู้บาดเจ็บลง ได้ ๘๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๐ ลดจำนวนผู้บาดเจ็บที่ต้องนอนโรงพยาบาลลงได้ ๕๗  คนคิดเป็นร้อยละ ๖๐  ผลการรณรงค์ที่จังหวัดน่านทำให้สังคมเกิดความสนใจ และเห็นถึงผลดีของการจัดงานแบบที่ไม่มีเหล้าเบียร์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ไทย พีบีเอส (Thai PBS)  ได้ถ่ายทอดสดการแข่งขันเรือยาวประเพณีมาแล้ว ๓ ปี ถือได้ว่าเป็นการช่วยปลุกกระแสการแข่งขันเรือยาวให้คึกคักและเป็นที่รู้จัก มากยิ่งขึ้น การถ่ายทอดการแข่งขันไม่เพียงนำเสนอแต่ผลแพ้ชนะเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกวิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ความสมัครสมานสามัคคีและความร่วมมือร่วมใจกันของคนในชุมชน  การถ่ายทอดสด “ศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำ ปี ๔” จำนวนทั้งสิ้น ๑๖ สนามทั่วประเทศ ถ่ายทอดสดทุกวันอาทิตย์ เวลา ๑๔.๐๕-๑๖.๐๐ น. ทางไทยพีบีเอส (Thai PBS) 


ข้อมูลจาก thaiPbs