วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมชุมชนต้นเเบบจัดการปัญหาเหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ 25 อำเภอ

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมชุมชนต้นเเบบจัดการปัญหาเหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ 25 อำเภอ

วันนี้(24 พ.ย. 2554 เวลา 09.00 น.)ท่านนฤมล ปาลวัฒน์ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เเละท่านดร.ทพ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายเเพทย์สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดเชียงใหม่เเละคณะสงฆ์นักพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่,สคร. 10 เชียงใหม่,สำนักพุทธศาสนา,สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “1 อำเภอ 1 ตำบลต้นแบบจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอุบัติเหตุ จังหวัดเชียงใหม่”
ในช่วงเเรกนั้นท่านนฤมล ปาลวัฒน์ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวเปิดเเละบรรยายพิเศษถึงเชียงใหม่นครเเห่งความสง่างามทางวัฒนธรรมเเละการจัดการปัญหาด้านการดื่มเเอลกอฮอล์ในงานบุญประเพณีเเละภาพฝันในการจัดการเมืองเชียงใหม่เเละน่าอยู่ซึ่งการดื่มเเละการท่องเที่ยวเบบไม่มีการรักษาวัฒนธรรมเป็นจุดทำลายการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ดังนั้นเชียงใหม่จะอยู่ได้อย่างสงบสุขจำเป็นต้องอาศัยพลังทางบวกจากทุกภาคี
การป้องกันแก้ไขปัญหาของเครือข่ายความร่วมมือฯ จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมา เน้นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ต้านพิษภัยในงานเทศกาลต่างๆ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ทั้งนี้เพื่อสร้างกระแสการเรียนรู้ และแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานกลุ่มองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคศาสนา และภาคประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงาน กลุ่มองค์กรต่างๆ ให้ความร่วมมือเข้ามาเป็นองค์กรภาคีร่วมกว่า 30 องค์กร ในนามของเครือข่ายความร่วมมือลดปัจจัยเสี่ยงจากแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอุบัติเหตุ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดเชียงใหม่ และมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นแกนหลักของเครือข่าย จากเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อทำแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทางคณะกรรมการฯ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตกลงกันที่จะดำเนินการสร้างชุมชน/ตำบลต้นแบบ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเริ่มที่รากฐานของชุมชน และเพื่อขยายผลให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้านตำบล อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่
ในการนี้ กรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ 
“1 อำเภอ 1 ตำบลต้นแบบจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอุบัติเหตุ จังหวัดเชียงใหม่” ขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดตำบลต้นแบบ ในระดับอำเภอในการลด ละ เลิก และควบคุมปัจจัยเสี่ยงจากเหล้า บุหรี่ และอุบัติเหตุ ผ่านการกระตุ้นเสริมเชิงกระแสสังคม และนโยบายปฏิบัติงานโดย ชุมชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบการดำเนินงานทุกขั้นตอน เพื่อเกิดประโยชน์สุขแก่จังหวัดเชียงใหม่ โดยส่วนรวม

ข่าวโดย รักพงค์ คำซาว
ภาพโดย ขจรพลกฤษฎ์ จันทร์เเสง
ศูนย์ข่าวเยาวชนเด็กล้านนา www.deklannatoday.co

เชียงใหม่เอาจริง “เมาแล้วขับ ปรับแพง” หลังคดีพุ่ง 98%


นายเกียรติศักดิ์ ชัยวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงเชียงใหม่ เปิดเผยหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือตามโครงการ “เมาแล้วขับ ปรับแพง” ระหว่างศาลแขวงเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวามหาราช ว่า ปัจจุบันมีคดีเมาแล้วขับเข้าสู่ศาลวันละ 20-50 ราย ซึ่งถือว่าสูงมาก โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 22 พ.ย.ปีนี้ มีคดีเมาแล้วขับ 4,855 คดี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 2,312 คดี หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 98.78

ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เพื่อลดปัญหาเรื่องนี้ 4 หน่วยที่เกี่ยวข้องจึงร่วมมือกันจัดทำโครงการนี้ เพื่อเป็นการสร้างกระแสความตื่นตัวของสังคมในการปฏิบัติตามกฎหมาย และลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ โดยมีเป้าหมายลดสถิติคดีลงอย่างน้อย 20% ในปีงบประมาณ 2555 .-สำนักข่าวไทย-

ลำพูนเล็งจัดงานฤดูหนาวคุมแอลกอฮอล์


นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงานพระนางจามเทวี และงานฤดูหนาวจังหวัดลำพูน ประจำปี 2554 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-11 ธันวาคม 2554 ณ บริเวณด้านหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดลำพูนโดยจะเน้น การจัดพื้นที่สาธารณะภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมชุมชนจังหวัดลำพูน และจะมีการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

มีการกำหนดเขต พื้นที่ให้ในการจำหน่ายระหว่างการจัดงาน ณ สถานที่จัดงานในพื้นที่เช่าเอกชน ซึ่งอยู่นอกพื้นที่สนามกีฬากลางไม่ให้อยู่ติดรั้วโรงเรียน โดยให้งดจำหน่ายในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 และมีการจัดเวรเฝ้าระวังการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งตรวจตราเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย ป้องปรามเหตุทะเลาะวิวาทในงานทุกคืน

"สิงห์-ไฮเนเก้น"ถอย/"ช้าง"ฉายเดี่ยวโชว์เบียร์ใหม่


น้ำท่วมทุบเบียร์การ์เด้น ลาน "เซ็นทรัลเวิลด์" กร่อย ! 2 ค่าย "สิงห์-ไฮเนเก้น" ประกาศไม่จัดงาน ชี้สถานการณ์ไม่เหมาะ หวั่นมู้ด-การเดินทางลำบาก ทำบรรยากาศไม่คึก ปล่อย "ช้าง" ฉายเดี่ยว ไทยเบฟฯ ถือโอกาสเปิดตัว "ช้าง เอ็กซ์พอร์ต"
นอกจากสถานการณ์น้ำท่วมจะทำให้เทศกาลเบียร์การ์เด้นปีนี้ต้องเลื่อนออกมากว่า 2 สัปดาห์ จากปกติที่จะเริ่มในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนและยิงยาวไปจนถึงสิ้นปี แต่ปีนี้ 2 ค่ายใหญ่ สิงห์-ไฮเนเก้น ประกาศไม่เข้าร่วมเทศกาลที่ลานด้านหน้าอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเทศกาล และปล่อยให้เบียร์ช้าง จากค่ายไทยเบฟฯ จัดงานเพียงรายเดียว

นายฉัตรชัย วิรัตนโยสินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้แม้ว่าพื้นที่หลาย ๆ แห่งในกรุงเทพฯ รวมทั้งพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และลานด้านหน้าอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม แต่จากสถานการณ์โดยรวมและคนไทยส่วนใหญ่ไม่อยู่ในอารมณ์ของความสนุกสนานรื่นเริง กระทบอย่างรุนแรงในหลาย ๆ พื้นที่ บริษัทมองว่าภาวะเช่นนี้ไม่อยู่ในบรรยากาศหรืออารมณ์ที่จะจัดงานรื่นเริงในลักษณะดังกล่าว

นายฉัตรชัยกล่าวว่า เบียร์การ์เด้นปีนี้ สิงห์จึงประกาศไม่จัดงานในกรุงเทพฯรวม 9-10 แห่ง รวมทั้งลานด้านข้างสยามดิสคัฟเวอรี่ และเซ็นทรัลเวิลด์ที่ถือเป็นแลนด์มาร์กของเทศกาล โดยได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังเซ็นทรัลเวิลด์เจ้าของพื้นที่ อย่างไรก็ตามสำหรับในต่างจังหวัดที่ไม่ถูกน้ำท่วมหรือไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมก็จะยังมีการจัดเบียร์การ์เด้นอยู่ แต่ขนาดงานหรือรูปแบบจะไม่เต็มที่เหมือนกับที่ผ่านมา ๆ ที่สถานการณ์ปกติ

"ตอนนี้คนต่างจังหวัดโดยเฉพาะชาวอยุธยา ชาวปทุม ฯลฯ ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนมาก เพราะเขาเป็นพื้นที่รับน้ำและเสียสละแทนคนกรุงเทพฯ จึงมองว่าคงไม่เหมาะที่เราจะจัดงาน"

ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือค่ายไฮเนเก้น กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปีนี้ไฮเนเก้น ตัดสินใจไม่จัดเบียร์การ์เด้นที่ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ บริษัทมองว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เหมาะที่จะจัดเทศกาลหรืองานรื่นเริง

"ตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังกังวลหรือห่วงกับปัญหาน้ำท่วม การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด และไม่มีอารมย์ที่จะออกมารื่นเริงสนุกสนาน"

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หรือค่ายเบียร์ช้าง กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ก่อสร้างพื้นที่จัดงานเบียร์การ์เด้นที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว โดยบริษัทจะใช้โอกาสนี้ในการเปิดเบียร์ตัวใหม่คือ "ช้าง เอ็กซ์พอร์ต" ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับเจ้าของพื้นที่ในแง่ของรูปแบบ

ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ยอมรับว่า จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้เทศกาลเบียร์การ์เด้นที่ลานด้านหน้าอาคารเวิลด์เทรดต้องเลื่อนออกมาประมาณ 2 สัปดาห์ จากปกติที่จะเริ่มในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนและสิ้นสุดในสิ้นเดือนธันวาคม ก็ต้องเลื่อนออกมาเป็นกลางเดือนพฤศจิกายน และสิ้นสุดในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม เหมือนทุกปีที่ผ่านมา

"สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบในแง่ของมู้ดอยู่บ้าง และคาดบรรยากาศโดยรวมอาจจะไม่คึกคักเหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา และสิ่งที่กังวลมากในขณะนี้ก็คือเรื่องของมู้ด รวมทั้งการเดินทางที่ไม่สะดวก เนื่องจากน้ำท่วมเส้นทางหลัก ๆ และอาจจะทำให้คนต้องรีบกลับบ้าน"

ที่มา ประชาชาติ

พบชายชาวจีนนอนตายหน้าหอพัก เมืองเชียงใหม่ คาดดวดเหล้าแก้หนาว

พบชายชาวจีนนอนตายหน้าหอพัก เมืองเชียงใหม่ คาดดวดเหล้าแก้หนาว ประกอบกับเป็นโรคความดัน เลยทำให้ช็อค ขณะที่ อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ พบอากาศยอดดอยอินทนนท์เช้านี้วัดได้ 5.2 องศา ...

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 21 พ.ย. ร.ต.อ.มาโนช เยี่ยมเจริญ ร้อยเวร สภ.เมือง เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครพิงค์ ว่ามีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่หอพักไม่มีชื่อ เลขที่ 46 ถ.ราชมรรคา ซอย 6 (หน้าวัดพันแหวน) ต.พระสิงห์ จึงพร้อมกับแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบศพ นายจงขาย แซ่จ้อง อายุ 72 ปี ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง นอนเสียชีวิตขวางอยู่ประตูทางเข้าชั้น 1 ของหอพัก สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตคอปกสีฟ้า กางเกงสามส่วนสีกรมท่า มีผ้าห่มบางๆห่มอยู่ ใกล้กันพบขวดเหล้าขาวจำนวนมาก และซองยารักษาโรคความดันโลหิตสูง แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย

จากการสอบสวน ทราบว่าผู้ตายมีอาชีพเก็บของเก่าขายไม่มีญาติพี่น้องได้มาเช่าหอพักอยู่โดย ลำพัง เมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนเห็นผู้ตายเมาสุรามานอนอยู่บริเวณจุดที่เกิดเหตุ โดยไม่ห่มผ้า ตกดึกอากาศจะหนาวมาก คนในหอพักจึงนำผ้ามาห่มให้ มาพบอีกครั้งตอนเช้า ก็กลายเป็นศพแล้ว เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่า นายจงขาย อาจมีโรคประจำตัวและได้ดื่มสุราแล้วนอนไม่ห่มผ้าทำให้ร่างกายขาดความอบอุ่น ประกอบตอนเช้ามืดมีอากาศหนาวเย็นมาก และผู้ตายก็อายุมากแล้ว อาจช็อคหัวใจวายเฉียบพลันเสียชีวิตได้ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้นำศพส่งให้แพทย์ภาควิชานิติเวช ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายโดยแน่ชัดอีกครั้ง

ขณะ ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพยากรณ์อากาศประจำวัน จันทร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ว่าสภาวะอากาศโดยทั่วไปเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ยังมี บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ภาคเหนือตอนบนอากาศค่อนข้างหนาวถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ หวัดได้ 5.2 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

ที่มา ไทยรัฐ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดี พบพระสงฆ์รูปหนึ่งท่าทางคล้ายเมาสุรา ใบหน้าแดงกร่ำ นั่งรออยู่บริเวณที่พักผู้โดยสารที่ชานชาลาภายในสถานีรถไฟลำปางจึงรุดไปตรวจสอบ พบพระพิทักษ์ อัคคธัมโม อายุ 40 ปี บวชอยู่วัดป่าวิเวกการาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเคยถูกจับสึกมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังแอบดื่มเหล้าขาวส่งเสียงดังเอะอะภายในวัดไชยมงคล อ.เมืองลำปาง เมื่อวันที่ 21 พ.ค.54 


จากการสอบถามพระพิทักษ์ บอกว่า เพิ่งบวชเป็นพระอีกครั้งเมื่อช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา ครั้งนี้เดินทางจากภาคอีสาน เพื่อมาสัมผัสอากาศหนาวที่ จ.ลำปาง และจะขึ้นรถไฟเดินทางต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อสัมผัสอากาศหนาวที่ดอยอินทนนท์ โดยเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ อากาศที่ลำปางหนาวจัด จึงดื่มสุราไปเล็กน้อย พร้อมกับกินยาลูกกลอน แต่วันนี้ยังไม่ได้ดื่มสุรา ส่วนที่หน้าแดงคงเป็นเพราะไม่ได้พักผ่อน ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวพระพิทักษ์ไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองลำปาง ก่อนนำตัวไปให้พระผู้ใหญ่ทำการสึกอีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดงาน วันเกษตรแม่โจ้ ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ภายใต้แนวคิดพระชนมพรรษา 84 แม่โจ้สามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา


รองศาสตราจารย์ อาคม กาญจนประโชติ กรรมการและเลขานุการงานวันเกษตรแม่โจ้ นายองอาจ ตัวแทนสภาอุตสาหกรรมเชียงใหม่ และ นายชุมพล รินทร์คำ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมแถลงข่าวงานวันเกษตรแม่โจ้ 2554 ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต งานดังกล่าวจัดระหว่างวันที่ 1-11 พฤศจิกายน 2554 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ภายใต้แนวคิด พระชนมพรรษา 84 แม่โจ้สามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี มีกิจกรรมมากมาย เช่น นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “กษัตริย์นักเกษตร” นิทรรศการมีชีวิต ชุด ดิน-น้ำ-ป่า การบรรยายพิเศษจากผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ เช่น ตัน ภาสกรนที การประชุมวิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติ ชมแปลงสาธิตการปลูกและจำหน่ายพืชพันธ์ ชมภาพวาด 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท การจัดแสดงสวนกล้วยไม้ นานาพันธุ์ การประกวดสวนหย่อมไม้ดอกไม้ประดับ ตลาดนัดร้านค้า สินค้าพื้นเมืองและสินค้าชั้นนำจากทั่วประเทศ พบกับศิลปินชื่อดังทุกค่ำคืน โดยปีนี้สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่จะจัดโซนตลาดสินค้านวัตกรรมการเกษตร และจัดโซนไชน่า ทาวน์ โดยได้เชิญกลุ่มผู้ผลิตสินค้าจากกลุ่ม GMS หรืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงนำสินค้ามาร่วมแสดงและจำหน่าย ขณะนี้ได้รับการตอบรับจากนักธุรกิจจีน ลาวและพม่าจะนำสินค้ามาแสดงและจำหน่ายกว่าร้อยราย
พิธีเปิดงานวันเกษตรแม่โจ้ 2554 จะมีขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2554 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน โดยการจัดงานดังกล่าวจะนำสุดยอดกล้วยไม้มาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่อันเป็นการเตรียมพร้อมสู่การจัดงานกล้วยไม้โลกในปี 2559 ด้วย

ธนวันต์-อนุสรา-อังคณา สวท.เชียงใหม่

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จุดพลังสร้างจิตสำนึกร่วมอนุรักษ์เเละฟื้นฟูคลองเเม่ข่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ชุมชนหลิ่งกอก ขอเชิญทุกท่านร่วมงานจุดพลังสร้างจิตสำนึกร่วมอนุรักษ์เเละฟื้นฟูคลองเเม่ข่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมายุครบ 84 พรรษาเเละมิติพิธีสืยบชะตาเเละลอยกระทงเเพื่อสร้างพลังจิตสำนึกอนุรักษ์ฟื้นฟูคลองเเม่ข่าในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2554 ตั้งเเต่ 09.00 - 16.30 น.ณ สองฝั่งน้ำเเม่ข่า
กิจกรรมหลักภายในงาน
1.ขอขมาน้ำเเม่ข่า
2.พิธีสู่ข้าวเอาขวัญน้ำเเม่ข่า
3.พิธีสืบชะตาน้ำเเม่ข่า
4.ไถ่ชีวิตปลาลงสู่เเม่น้ำเเม่ข่า 840 ตัว
5.ลอยกระทง(ขนมปัง)ย่อยสลายง่ายไม่ทำลายสิ่งเเวดล้อม
6.การเเสดงนิทรรศการ"เเม่ข่าเเม่ของเวียงนพบุรีศรีนครพิงค์"
7.การเเข่งขันการวาดรูปของเด็กนักเรียน"คลองเเม่ข่าที่หฯูอยากเห็น"
8.การเเข่งขัน"ฮูลาฮุ้ป"ริมน้ำเเม่ข่า
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่             087-5222454      

งาน “Chiangmai Flora Blossom 2011”

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับสถานที่ท่องเที่ยวสัญลักษณ์ประจำเมืองที่คุณคุ้นเคยทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ พระบรมธาตุดอยสุเทพ วัดเจดีย์หลวง ประตูท่าแพ อนุเสาวรีย์สามกษัตริย์ และ สะพานนวรัฐ ในรูปแบบประติมากรรม ที่ประดับด้วยพฤกษานานาพรรณบานสะพรั่ง เต็มพื้นที่ศูนย์การค้าฯ พิเศษ ช้อปสินค้าภายในศูนย์การค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไป รับฟรี Blossom Bag 1 ใบ มูลค่า259บาท (100 ท่านแรก/วัน)มีให้เลือก 3สี (เหลือง ขาว น้ำตาล) ในงาน “Chiangmai Flora Blossom 2011” ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2554 บริเวณ ชั้นG ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

เทศบาลตำบลเชิงดอย ขอเชิญชวนเที่ยวงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง ครั้งที่ ๑๓

เทศบาลตำบลเชิงดอย ขอเชิญชวนเที่ยวงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง ครั้งที่ ๑๓
เทศบาลตำบลเชิงดอย นำโดยนายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเที่ยวงาน “ประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง ครั้งที่ ๑๓” ในวันที่ ๕-๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (วันที่ ๕ พ.ย. ตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐ เป็นต้นไป / วันที่ ๖ พ.ย. ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ เป็นต้นไป) ณ บริเวณหนองบัวพระเจ้าหลวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยภายในงานมีกิจกรรมการประกวดแข่งขันมากมาย อาทิเช่น การประกวดสะเปา การประกวดโคมลอย การแข่งขันบอกไฟลูกหนู การแข่งขันชกมวยไทย การประกวดแม่เฮือนงาม ขบวนแห่กระทงของเทศบาลตำบลเชิงดอย และขบวนการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของแต่ละหมู่บ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงพระชนมายุ ๘๔ พรรษา โดยร่วมกันปล่อย “โคมลอย ๙๘๕ ดวง ปวงประชาน้อมถวาย ๘๔ พรรษาพ่อหลวงไทย เทิดไท้องค์ราชัน” ซึ่งในปีนี้เทศบาลตำบลเชิงดอยจะแจกโคมลอย (ฟรี) ให้กับทุกท่านที่มาร่วมงาน และร่วมปล่อยพร้อม ๆ กันในพิธีเปิดงาน วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น.http://www.facebook.com/video/video.php?v=308081389218744