เทศบาลเมืองแพร่ เตรียมจัดงานประเพณีลอยกระทงปลอดเหล้า
เทศบาลเมืองแพร่ เตรียมจัดงานประเพณีลอยกระทง "จุดผางปะตี้ปตี๋นก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก" ประจำปี 2554 เน้นศิลปวัฒนธรรมอันงดงามตระการตา และรณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ และคณะกรรมการจัดงานประเพณีลอยกระทง “จุดผางปะตี้ปตี๋นก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก” ประจำปี 2554 แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กาดสามวัย หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ โดยปีนี้เทศบาลเมืองแพร่ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 8–10 พฤศจิกายน 2554 ณ บริเวณสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร.9 โดยมุ่งเน้นศิลปวัฒนธรรมอันงดงามตระการตา เพื่ออนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และจัดกิจกรรมลอยกระทงปลอดเหล้า โดยกำหนดจุดห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายในงานจัดให้มีการประกวดและการแสดงต่างๆมากมาย อาทิ ประกวดโคมลอย ประกวดกระทงฝีมือ ประกวดตีกลองปูจา ประกวดซุ้มประตูวัด การแข่งขันบอกไฟดอก ประกวดหนูน้อยนพมาศ ประกวดนางนพมาศ ประกวดดนตรีฟรีสไตล์ ประกวดวงดนตรีลูกทุ่งพร้อมหางเครื่อง การแสดงศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองแพร่ การแสดงของศิลปินดีเด่นจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ปี 2543 วงดนตรีลูกทุ่ง “รากแก่น โปงลางโชว์” ของราชินีหมอลำ บานเย็น รากแก่น พร้อมชมขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา โดยเฉพาะขบวนแห่ธรรมหลวงถวายเทศน์มหาชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนและสถานศึกษาหลายแห่งจัดขบวนแห่เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีการจัดงานจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของจังหวัดแพร่และกระจายรายได้สู่ประชาชน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ในทางหนึ่งด้วยสำหรับ “ประเพณีจุดผางปะตี้ปตี๋นก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก” เป็นประเพณีที่ชาวจังหวัดแพร่ ได้ถือปฏิบัติในงานประเพณีลอยกระทง เดือนยี่เป็ง ตามความเชื่อที่มีนิยายของชาวบ้านเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อสมัยดึกดำบรรพ์ มีกาเผือกผัวเมียคู่หนึ่งทำรังอยู่บนต้นไม้ในป่าหิมพานต์ใกล้ฝั่งแม่น้ำ มีไข่อยู่ในรัง 5 ฟอง วันหนึ่งกาตัวผู้บินออกจากรังไปหาอาหาร เผอิญหลงทางกลับไม่ได้ก็บินกระเจิดกระเจิงสูญหายไป จนมาวันหนึ่งเกิดพายุใหญ่พัดรังกระจัดกระจาย แม่กาไม่เห็นไข่ทั้ง 5 ฟอง ก็เสียใจเป็นที่สุดจึงร้องไห้จนขาดใจตาย แล้วไปเกิดใหม่บนพรหมโลก มีชื่อว่า ท้าวพกาพรหม ส่วนไข่ทั้ง 5 ฟองพัดลงน้ำลอยไปคนละแห่ง และมีผู้นำไปพิทักษ์รักษาไว้คือ ฟองที่ 1 แม่ไก่นำไป ฟองที่ 2 แม่นาคนำไป ฟองที่ 3 แม่เต่านำไป ฟองที่ 4 แม่โคนำไป และฟองที่ 5 แม่ราชสีห์นำไป เมื่อครบกำหนดฟักไข่แตกออกกลับกลายเป็นมนุษย์ เมื่อหนูน้อยเติบโตขึ้นเห็นโทษในความเป็นฆราวาสจึงบวชเป็นฤาษี ทั้ง 5 เผอิญโคจรมาพบปะกันจึงต่างถามถึงนามวงศ์และมารดาของกัน ซึ่งต่างก็ไม่มีมารดา มีแต่มารดาเลี้ยงจึงได้พร้อมใจกันตั้งสัตย์อธิษฐาน ร้อนไปถึงท้าวพกาพรหม จึงจำแลงเป็นกาเผือกบินลงมาเกาะบนต้นไม้หน้าฤาษีทั้ง 5 แล้วเล่าเรื่องแต่เดิมให้ฟัง และบอกว่าหากคิดถึงมารดา ในวันเพ็ญเดือน 11 หรือ 12 ให้นำด้ายดิบผูกไม้เป็นตีนกาปักธูปเทียนบูชาลอยกระทงในแม่น้ำเถิด จึงเกิดประเพณีลอยกระทงหรือจุดผางปะตี๋ปตี๋นก๋า เพื่อบูชาท้าวพกาพรหมขึ้น ซึ่งหมายถึงบรรพบุรุษของฤาษี หรือในปัจจุบันหมายถึง การบูชาระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น